วันนี้ สอนนักศึกษาระดับม.ต้นกศน.ตำบลทุ่งฝาย จำนวน 23 คน ในวิชาวิทยาศาสตร์ สอนเรื่อง งานและพลังงาน
งาน คือ การออกแรงกระทำต่อวัตถุ และวัตถุที่ถูกกระทำมีการเคลื่อนที่ไปตามทิศของแรง มีหน่วยเป็นจูล
พลังงาน คือ ความสามารถทำงานได้ สิ่งใดที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือมีการเคลื่อนที่ สิ่งนั้นย่อมมีพลังงาน พลังงานมีหลายรูปแบบ ได้แก่ พลังงานความร้อน พลังงานแสง พลังงานเสียง พลังงานกล พลังงานไฟฟ้า พลังงานเคมี เป็นต้น
พลังงานมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด และมีความเกี่ยวข้องกับมนุษย์มาตั้งแต่โบราณ จนกระทั่งปัจจุบันมนุษย์ได้ใช้พลังงานต่าง ๆ ทำกิจกรรมในการดำรงชีวิตและใช้อำนวยความสะดวกได้มากขึ้น พลังงานกล แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. พลังงานจลน์ คือ พลังงานที่เกิดกับวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่
เช่น น้ำไหล คนเดิน รถกำลังแล่น นกกำลังบิน เป็นต้น
วัตถุที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง
จะมีพลังงานจลน์มากกว่าวัตถุที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำ
แต่ถ้าวัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่ากันวัตถุที่มีมวลมากกว่า
จะมีพลังงานจลน์มากกว่า
2. พลังงานศักย์ คือ พลังงานที่มีอยู่ในวัตถุเนื่องมาจากตำแหน่งของวัตถุ แบ่งเป็น
2. พลังงานศักย์ คือ พลังงานที่มีอยู่ในวัตถุเนื่องมาจากตำแหน่งของวัตถุ แบ่งเป็น
1.
พลังงานศักย์โน้มถ่วง
เป็นพลังงานที่มีอยู่ในวัตถุซึ่งอยู่ในที่สูง เกิดขึ้น
เนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลกที่กระทำต่อวัตถุ วัตถุที่อยู่บนพื้นดินถือว่าไม่มีพลังงานศักย์โน้มถ่วง
แต่วัตถุที่อยู่สูงจากพื้นดิน มีพลังงานศักย์โน้มถ่วง
และถ้าวัตถุอยู่สูงจากพื้นดินมากเท่าใด
ก็จะมีพลังงานศักย์โน้มถ่วงมากขึ้นตามไปด้วย
2.
พลังงานศักย์ยืดหยุ่น
เป็นพลังงานศักย์ที่มีอยู่ในวัตถุที่ยืดหยุ่นได้ โดยเฉพาะสปริง สปริงที่อยู่ในสภาพปกติ
คือไม่ถูกยืดหรือหด จะถือว่า ไม่มีพลังงานศักย์ยืดหยุ่น แต่ถ้าเรายืดสปริง
หรือกดสปริงเข้าไปในขณะที่สปริงถูกยืด
ครูให้นักศึกษาทำแบบฝึกหัดจำนวน 2 ข้อ
1.พลังงาน
มีความหมายว่าอย่างไร
2.พลังงานศักย์ และพลังงานจลน์
แตกต่างกันอย่างไร
ผลการสังเกตพบว่านักศึกษา มีความเข้าใจบ้าง..ในระยะเวลาสั้นๆแต่พออาทิตย์หน้าก็จะลืม...ครูต้องทบทวน....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น